เกษตรอัจฉริยะ (Smart Farming) เพิ่มผลผลิตได้จริงไม่อิงนิยาย ลงทุนง่ายด้วย

เกษตรอัจฉริยะ (Smart Farming) เพิ่มผลผลิตได้ ลงทุนง่ายด้วยสินเชื่อรถไถ รถแทรกเตอร์

เกษตรอัจฉริยะ หรือ Smart Farming สามารถเพิ่มผลผลิตให้เกษตรได้จริง ลงทุนง่ายด้วยสินเชื่อรถไถ รถแทรกเตอร์ เปลี่ยนจากการทำการเกษตรแบบเดิม มาทำการเกษตรแบบอัจฉริยะ โดยใช้เทคโนโลยีเข้ามาช่วยตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำ มีความถูกต้องแม่นยำ และสามารถปรับให้มีความเหมาะสมกับสภาพแวดล้อมและความต้องการของเกษตรกรผู้ใช้งานได้ทุกมิติ ลองมาทำความรู้จักเกษตรอัจฉริยะเพื่อให้เห็นภาพรวม

เกษตรอัจฉริยะ หรือ Smart Farming คืออะไร?

    ทำไมต้องเรียกว่าอัจฉริยะ? ที่มาของคำนี้เพราะเป็นการทำเกษตรที่ใช้เทคโนโลยีเซ็นเซอร์ในการวัดและเก็บข้อมูลต่างๆ แทนการใช้แรงงานคนแบบดั้งเดิม แล้วระบบจะนำข้อมูลมาวิเคราะห์และปรับปรุงการผลิตทางการเกษตรให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น เซ็นเซอร์เหล่านี้จะช่วยให้เกษตรกรสามารถควบคุมปัจจัยต่างๆ ที่ส่งผลต่อการเจริญเติบโตของพืชได้อย่างแม่นยำ ลดต้นทุนการผลิต และเพิ่มผลผลิตได้อย่างยั่งยืน

รูปแบบของเกษตรอัจฉริยะมีอะไรบ้าง?

    • เซนเซอร์ ใช้เพื่อเป็นอุปกรณ์วัดค่าและเก็บข้อมูลที่ต้องการ ลองคิดดูว่าเซ็นเซอร์เหล่านี้สามารถทำงานวัดค่าและเก็บข้อมูลได้ตลอดเวลา ต่างจากแทนแรงงานคน และยังมีความถูกต้องแม่นยำมากกว่าอีกด้วย เช่น

      สภาพอากาศ
      – เซ็นเซอร์วัดอุณหภูมิและความชื้น ใช้วัดอุณหภูมิและความชื้นของอากาศ เพื่อควบคุมสภาพแวดล้อมในโรงเรือนหรือพื้นที่เพาะปลูก
      – เซ็นเซอร์วัดปริมาณแสง ใช้วัดปริมาณแสงที่พืชได้รับ เพื่อปรับระดับแสงในเรือนเพาะชำ หรือวัดปริมาณแสงที่ส่องสว่างในคอกปศุสัตว์
      – เซ็นเซอร์วัดปริมาณฝน สำหรับวัดปริมาณฝนที่ตก เพื่อวางแผนการให้น้ำและป้องกันน้ำท่วมในพื้นที่เกษตร

      สภาพดิน
      – เซ็นเซอร์วัดระดับความชื้นในดิน เพื่อให้สามารถกำหนดปริมาณน้ำที่เหมาะสมสำหรับการให้น้ำ
      – เซ็นเซอร์วัดค่า pH ของดิน เพื่อให้ทราบค่าความเป็นกรดด่าง เพื่อการปรับปรุงคุณภาพดินให้เหมาะสมกับพืชแต่ประเภท

      สภาพน้ำ
      – เซ็นเซอร์วัดค่า pH ของน้ำ ใช้วัดค่าความเป็นกรด-ด่างของน้ำที่ใช้ในการให้น้ำพืช
      – เซ็นเซอร์วัดปริมาณออกซิเจนละลายน้ำ เพื่อวัดปริมาณออกซิเจนในน้ำที่ใช้เลี้ยงสัตว์น้ำ
    • ระบบไอโอที (IoT) ปัญญาประดิษฐ์ (AI) และการวิเคราะห์ข้อมูลขนาดใหญ่ (Big Data) ให้นึกภาพว่าระบบเหล่านี้เสมือนสมองหลักของเกษตรอัจฉริยะ จากข้อแรก เมื่อได้รู้ว่าสภาพอากาศ สภาพดิน สภาพน้ำเป็นอย่างไรแล้ว ก็ส่งต่อมาถึงระบบนี้ คือมีหน้าที่วิเคราะห์และประมวลผลข้อมูลที่ได้รับมาจากเซ็นเซอร์ แล้วสั่งให้อุปกรณ์ในแปลงเกษตรหรือในคอกปศุสัตว์ทำงานตามต้องการต่อไป นอกจากนี้ระบบยังมีความสามารถในการเรียนรู้วิธีการแก้ปัญหาจากข้อมูลมหาศาลที่อยู่เบื้องหลัง ทำให้ได้ผลลัพธ์มีความถูกต้องแม่นยำสูงมาก และเกษตรกรเองสามารถเรียกดูข้อมูลและจัดการทุกอย่างในพื้นที่ของตัวเองได้ทุกที่ทุกเวลา อย่างไรก็ตาม ระบบเหล่านี้มีจำหน่ายแบบสำเร็จรูปพร้อมบริการ หรือเกษตรกรสามารถซื้อชุดอุปกรณ์มาติดตั้งและสร้างระบบขึ้นมาเองก็ได้สามารถเรียนรู้ได้เองไม่ยากนัก หากมีรถในการเกษตรใช้งานอยู่ ให้สินเชื่อรถไถ รถแทรกเตอร์ นำเงินทุนมาพัฒนาเทคโนโลยีด้านเกษตรกรรมตรงนี้
    • เครื่องจักรอัตโนมัติและหุ่นยนต์ เป็นอุปกรณ์ที่ทำงานตามคำสั่งของระบบสมองตามที่กล่าวมาจากหัวข้อที่แล้ว อุปกรณ์เหล่านี้จะทำงานโดยอัตโนมัติตามสภาพแวดล้อมหรือตามเงื่อนไขที่วางไว้ เช่น เมื่อดินมีความชื้นต่ำ ระบบรดน้ำจะทำงานเองโดยอัตโนมัติและหยุดรดน้ำเมื่อความชื้นเพิ่มจนถึงระดับที่กำหนดไว้ หรือเมื่ออาหารสัตว์หมดหรือพร่องลง เซ็นเซอร์น้ำหนักจะทราบว่าภาชนะอาหารเบาลงและสั่งให้ตัวให้หัวอาหารทำงานปล่อยอาหารและน้ำจนได้น้ำหนักที่กำหนดไว้ อีกตัวอย่างคือระบบควบคุมสภาพแวดล้อมในโรงเรือนโดยเครื่องจักรอัตโนมัติจะช่วยควบคุมอุณหภูมิ ความชื้น และแสงสว่าง เพื่อให้พืชและปศุสัตว์มีสภาพแวดล้อมที่อย่างเหมาะสม
    • โดรน ปัจจุบันมีการใช้โดรนอย่างแพร่หลายเพราะมีความยืดหยุ่นในการปรับแต่งให้เหมาะสมกับงานเกษตรได้หลากหลาย ตัวอย่างเช่น
      – งานสำรวจและวิเคราะห์ โดรนที่ติดตั้งกล้องความละเอียดสูง มีเซ็นเซอร์ และซอฟต์แวร์วิเคราะห์ภาพ สามารถบินสำรวจพื้นที่ได้อย่างรวดเร็วและแม่นยำ ช่วยให้ตรวจสอบสุขภาพพืช พบปัญหาศัตรูพืชหรือโรคระบาดได้อย่างทันท่วงที
      – งานฉีดพ่นปุ๋ยและสารเคมี หากติดตั้งอุปกรณ์เสริมจะบรรทุกปุ๋ยและสารเคมีได้ ทำให้การฉีดพ่นได้พื้นที่กว้าง ประหยัดเวลา และลดการสัมผัสสารเคมีของเกษตรกร
      – งานเกษตรด้านอื่น นอกจากนี้ยังใช้โดรนในการผสมเกสร การตรวจสอบระบบชลประทาน หรืออาจใช้ในงานสำรวจความเสียหายในพื้นที่ของเกษตรกรได้อีกด้วย

เกษตรอัจฉริยะ หรือ Smart Farming มีประโยชน์กับเกษตรกรอย่างไร?

แม้การวางโครงสร้างและระบบในช่วงเริ่มต้นมีความซับซ้อนในการวางแผนโครงสร้างและต้องใช้เงินลงทุน แต่ระบบที่ทำงานโดยอัตโนมัติมีความถูกต้องแม่นยำและรวดเร็วกว่าแรงงานคนมาก ในเชิงการตลาดสามารถเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันในระยะยาว เพราะผลผลิตที่ได้มีคุณภาพสูงและมีต้นทุนต่ำลงในระยะยาว ทำให้มีรายได้เพิ่มขึ้น อีกทั้งเครื่องจักรอัตโนมัติยังช่วยลดเรื่องความต้องการแรงงาน ช่วยให้เกษตรกรมองข้ามปัญหาขาดแคลนแรงงานได้ และการเทคโนโลยีอัจฉริยะยังช่วยลดการใช้น้ำ ปุ๋ย และสารเคมี ทำให้ได้มิติความเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมในระยะยาวอีกด้วย

ข้อดีเหล่านี้ล้วนเป็นประโยชน์แก่ทั้งเกษตรกร สังคมและสิ่งแวดล้อม หากสนใจเทคโนโลยีเกษตรอัจฉริยะ ให้สินเชื่อรถไถ รถแทรกเตอร์ นำเงินทุนมาต่อยอดพัฒนาโครงการเกษตรที่ได้วางแผนไว้ สนใจสามารถเข้ามาปรึกษาที่สบาย ลีสซิ่ง ทุกสาขา สอบถามที่โทร 055-000-600 หรือติดต่อทาง LINE Official @sabuyleasing เพราะทุกความสบายใจเป็นไปได้ ที่ สบาย ลีสซิ่ง