ดูแลบ้านอย่างไร ให้อยู่สบาย ชุ่มฉ่ำใจในหน้าฝน

ดูแลบ้านอย่างไร ให้อยู่สบาย ชุ่มฉ่ำใจในหน้าฝน

ดูแลบ้านอย่างไร ให้อยู่สบายในหน้าฝน ไม่มีปัญหามากวนใจเจ้าของบ้าน หากเปรียบเทียบทั้ง 3 ฤดูแล้ว พอจะพูดได้ว่าฤดูฝนเป็นช่วงที่เจ้าของบ้านต้องดูแลบ้านและบริเวณรอบๆ ให้มากเป็นพิเศษ เพราะมีปริมาณน้ำและความชื้นมากกว่าฤดูอื่นๆ มาดูวิธีการดูแลในหลากหลายมิติ ตั้งแต่หลังคา ตัวบ้าน จนถึงฐานราก รวมทั้งบริเวณโดยรอบด้วย

ตรวจสอบการรั่วซึมหลังคาและรางน้ำฝน

หลังคา เริ่มจากปราการด่านแรกที่ฝนตกลงมายังบ้านก่อน นั่นคือหลังคา สามารถสังเกตง่ายๆ ว่าแผ่นกระเบื้องหรือชิ้นส่วนหลังคามีรอยแตกร้าวหรือไม่ มีชิ้นส่วนไหนที่มีตำแหน่งการติดตั้งขยับไปจากเดิมหรือไม่ หากพบความเสียหายให้ซ่อมแซมหรือเปลี่ยน อีกจุดหนึ่งที่สำคัญเช่นกันคือ การตรวจสอบสกรูยึดหลังคา หากชำรุดหรือขึ้นสนิมให้รีบซ่อมแซม ไม่เช่นนั้นน้ำฝนอาจซึมผ่านรูสกรูและทำความเสียหายกับโครงหลังคาได้
รางน้ำฝน ให้ตรวจสอบว่ารางน้ำฝนมีสิ่งกีดขวางอุดตันหรือไม่ เช่น เศษใบไม้ รังนก ให้นำสิ่งกีดขวางออก รวมถึงหากพบว่ารางน้ำฝนมีการแตกหัก รั่วซึม ให้ซ่อมแซมหรือเปลี่ยน เพื่อให้การระบายน้ำเป็นปกติ ไม่ให้เกิดปัญหาอุดตันจนน้ำระบายไม่ทันและน้ำล้นย้อนกลับสู่ตัวหลังคา ซึ่งสามารถสร้างความเสียหายแก่ตัวบ้านได้

รอยต่อระหว่างตัวบ้านและกรอบประตูหน้าต่าง มีน้ำรั่วซึมหรือไม่?

ตรวจสอบซีลและยาแนวกรอบประตูหน้าต่างว่ายังอยู่ในสภาพดีหรือเปล่า ซีลและยาแนวที่ใช้งานมานานอาจเปลี่ยนสีไปจากเดิม เนื้อวัสดุอาจเสื่อมสภาพ กรอบและหลุดร่อน ให้เปลี่ยนซีลหรือยาแนวใหม่ก่อนฝนจะมาเยือน สาเหตุอีกอย่างที่คาดไม่ถึงคือ หลายครั้งที่ซีลและยาแนวยังอยู่ในสภาพดีแต่ก็ยังพบน้ำฝนซึมอยู่ อาจเกิดจากผนังกับกรอบประตูหน้าต่างไม่แนบสนิทกันตั้งแต่ขั้นตอนการติดตั้ง เจ้าของบ้านสามารถติดต่อช่างให้ปรับการติดตั้งใหม่และฉีดน้ำทดสอบการรั่วซึมหลังการติดตั้งด้วย

รอยแตกร้าวของผนังบ้าน จุดเล็กๆ ที่นำไปสู่ปัญหาใหญ่?

สาเหตุของรอยร้าวมีหลายสาเหตุ เช่น แรงสั่นสะเทือน พื้นดินทรุดตัว การเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศ หรือแม้แต่การออกแบบที่ไม่ดีพอ หากมีรอยแตกร้าวภายนอกบ้านอาจทำให้เกิดปัญหาน้ำซึม แก้ไขได้ด้วยวัสดุโป๊วผนัง หรือซีเมนต์ซ่อมแซม เป็นต้น เพื่อป้องกันความชื้นเข้าสู่ตัวผนังภายในบ้านที่อาจนำไปสู่ปัญหาเชื้อราแก่ผู้อยู่อาศัย

โพรงใต้บ้าน นอกจากไม่สวยงามแล้ว ยังเป็นรังของสัตว์มีพิษและแหล่งน้ำขัง

เมื่อดินรอบบ้านทรุดตัวมากๆ จะเกิดโพรงใต้บ้านขึ้นซึ่งอาจเป็นที่อยู่อาศัยของสัตว์ โดยเฉพาะช่วงหน้าฝนที่มีสัตว์มีพิษชุกชุม เป็นแหล่งน้ำขังเมื่อฝนตกตกหนัก และดูไม่สวยงาม ซึ่งไม่เป็นผลดีกับเจ้าของบ้าน ปัญหาตรงนี้สามารถปรึกษาช่างเพื่อหาแนวทางปิดโพรงใต้บ้าน ได้แก่ การวางอุปกรณ์จัดสวนเพื่อพรางสายตา การเติมโพรงด้วยดินทราย และการทำแนวกันดินไหล เป็นต้น

หมั่นตรวจสอบการระบายน้ำรอบๆ บ้าน ในหน้าฝน ต้องไม่มีสิ่งกีดขวางอุดตัน

ให้เจ้าของบ้านหมั่นตรวจสอบการระบายน้ำรอบบ้าน เช่น รางระบายน้ำ ท่อระบายน้ำ และฝาท่อ ให้แน่ใจว่าไม่มีสิ่งกีดขวาง และสามารถระบายน้ำได้ดีอยู่เสมอ การระบายไม่ดี ทำให้เกิดน้ำขัง กลายเป็นแหล่งอาศัยของเชื้อโรค ยุง และสัตว์มีพิษได้เหมือนกัน

ดูแลตัดแต่งต้นไม้ และสนามหญ้า

ช่วงหน้าฝน ต้นไม้และหญ้าจะโตเร็ว ดังนั้นต้องได้รับการดูตัดแต่งกิ่งไม้ที่ยื่นยาวออก เพื่อป้องกันกิ่งไม้หักโค่นเมื่อมีลมแรง เก็บกวาดใบไม้ที่ร่วง และตัดหญ้าไม่ให้สูงจนรกตา เป็นการป้องกันสัตว์ต่างๆ มาทำรังอาศัย ทั้งหมดนี้ทำให้บริเวณรอบๆ บ้านดูสวยงามสะอาดตา และปลอดภัยจากสัตว์มีพิษ

จะเห็นว่าการดูแลบ้านในช่วงหน้าฝนนั้นทำได้ไม่ยาก หากเจ้าของบ้านหมั่นสังเกตความผิดปกติและแก้ไขก่อนฝนจะนำพาความเสียหายมาให้ การป้องกันความเสียหายและการซ่อมแซมต้องใช้เงินทุนทั้งสิ้น สามารถนำรถยนต์เข้ามาปรึกษา สินเชื่อจำนำทะเบียนรถยนต์ ได้ที่สบาย ลีสซิ่ง ทุกสาขา สอบถามที่โทร 055-000-600 หรือติดต่อทาง LINE Official @sabuyleasing เพราะทุกความสบายใจเป็นไปได้ ที่ สบาย ลีสซิ่ง