ขับขี่มอเตอร์ไซค์ในหน้าหนาว เตรียมรถเตรียมคนให้พร้อมกันแล้วหรือยัง?

เข้าสู่ช่วงปลายปี ขับขี่มอเตอร์ไซค์ในหน้าหนาว ได้เตรียมรถเตรียมคนให้พร้อมก่อนออกเดินทางกันแล้วหรือยัง ในช่วงนี้หลายคนวางแผนเดินทางไกลข้ามจังหวัดกันแล้ว เพราะอากาศเย็นสบายไม่ร้อนเหมือนช่วงอื่นๆ ของปี สำหรับนักเดินทางที่ชอบการขี่รถมอเตอร์ไซค์ ควรทราบแนวทางการเตรียมพาหนะคู่ใจรวมถึงตัวผู้ขี่เองด้วยที่ต้องมีความพร้อม พาทั้งรถและคนไปถึงจุดหมายอย่างไม่มีปัญหา คำแนะนำต่อไปนี้ก็ยังใช้กับผู้ที่เดินทางด้วยมอเตอร์ไซค์เป็นปกติในชีวิตประจำวันได้ด้วย

อากาศหนาว รถมอเตอร์ไซค์ก็หนาวเป็นเหมือนกัน แล้วต้องเตรียมรถอย่างไร?

1. อุ่นเครื่องก่อนขับขี่ การจอดรถมอเตอร์ไซค์ทิ้งไว้ข้ามคืนหรือการสตาร์ตเครื่องในครั้งแรกของวัน เครื่องยนต์อาจต้องใช้ระยะเวลาอุ่นเครื่องนานขึ้น เพราะอากาศเย็นจัดทำให้ชิ้นส่วนเครื่องยนต์หดตัวและน้ำมันมีความหนืด ทำให้เครื่องยนต์ทำงานได้ไม่เต็มประสิทธิภาพ แนะนำให้สตาร์ตเครื่องทิ้งไว้สักพักก่อน เพื่อให้เครื่องอุ่นขึ้น
2. ตรวจสอบไฟหน้า ไฟเบรค และไฟเลี้ยว หน้าหนาวมักมีหมอกหนาเป็นอุปสรรคในการขับขี่ ทัศนวิสัยลดลง เห็นสิ่งที่อยู่ข้างหน้าไม่ชัดเจน ไฟหน้าและไฟสัญญาณต่างๆ จึงเป็นสิ่งสำคัญที่บ่งบอกให้ผู้ใช้ถนนคนอื่นทราบถึงตำแหน่งของเรา ดังนั้นเจ้าของรถควรตรวจสอบไฟสัญญาณทุกดวงว่าทำงานได้ปกติหรือไม่ นอกจากนี้การตรวจสอบไฟสัญญาณไม่ใช่ทำแค่เฉพาะช่วงหน้าหนาวเท่านั้น แต่ควรตรวจสอบอย่างละเอียดก่อนการใช้รถทุกครั้งด้วย
   
3. ตรวจสอบสภาพยาง ยางรถเป็นหนึ่งในปัจจัยสำคัญของความปลอดภัยในการขับขี่ ถนนในหน้าหนาวมีความคล้ายกับถนนในหน้าฝนอยู่บ้าง แม้ผิวถนนอาจไม่เปียกและลื่น แต่อย่าลืมว่าน้ำค้างและความชื้นบนผิวถนนในหน้าหนาวก็ทำให้ผู้ขับขี่เสียการควบคุมรถได้ ดังนั้นสภาพยางที่ดีช่วยเรื่องการยึดเกาะถนนได้ ทำให้มีความปลอดภัยขณะขับขี่มากขึ้น เช่นเดียวกับหัวข้อก่อนหน้าเรื่องการตรวจสอบไฟสัญญาณ การตรวจสอบสภาพยางก็เช่นเดียวกัน เป็นสิ่งที่ต้องปฏิบัติอยู่แล้วทุกครั้งก่อนเดินทาง
   
4. แฟริ่งบังลม การขี่มอเตอร์ไซค์ระยะทางไกล ผู้ขับขี่โดนลมหนาวผ่านตัวเป็นเวลานาน อุปกรณ์แฟริ่งทำหน้าที่เป็นตัวช่วยไม่ให้ลมปะทะลำตัวผู้ขับขี่ ทำให้ขับขี่ได้สบายขึ้น มีทั้งที่ติดตั้งมาจากโรงงานในรถบางรุ่นและติดเป็นอุปกรณ์เสริมในภายหลัง ผู้ขับขี่สามารถพิจารณาเป็นตัวเลือกในการติดตั้งได้
   

ผู้ขับขี่ก็ต้องเตรียมตัวให้ดีเช่นกันในหน้าหนาว

1. สวมเครื่องแต่งกายให้มิดชิด ผู้ขับขี่ควรแต่งกายด้วยเสื้อผ้าที่ปิดบังส่วนของร่างกายที่ต้องปะทะลม เช่น
   • หมวกกันน็อคเต็มใบ เพื่อให้ป้องกันลมหนาวได้ทั้งศีรษะและใบหน้า อาจเพิ่มผ้าคลุมศีรษะ ผ้าคลุมหน้าและคอ เพื่อป้องกันความหนาวได้ดียิ่งขึ้น
   • เสื้อแขนยาวกันลม แนะนำให้เลือกแบบที่สวมใส่แล้วสามารถขับขี่รถได้สะดวก ไม่เทอะทะ เคลื่อนไหวร่างกายได้ไม่ติดขัด และสามารถสวมทับเสื้อปกติได้
   • กางเกงขายาว เลือกกางเกงที่กระชับ ผู้ขับขี่สวมใส่สบายและกันหนาวได้ในตัว
   • ถุงมือ พอจะกล่าวได้ว่ามือเป็นอวัยวะที่ปะทะลมมากที่สุด ดังนั้นแนะนำให้สวมถุงมือทุกครั้งหากต้องเดินทางในหน้าหนาว เพราะการบิดคันเร่งนานๆ โดยไม่ได้เปลี่ยนท่ามากนัก รวมทั้งต้องเจอกับลมหนาวอยู่ตลอดเวลา มืออาจชาและเป็นตะคริวได้
     ปัจจุบันมีเนื้อผ้าชนิดพิเศษที่กักเก็บความร้อนของร่างกายวางจำหน่ายด้วย ผู้ขับขี่สามารถเลือกผ้าชนิดนี้ทั้งในรูปแบบผ้าคลุมศีรษะ เสื้อตัวใน กางเกงกันหนาว และอื่นๆ มาใช้งาน ก็เป็นอีกตัวช่วยในการสู้กับลมหนาวขณะเดินทางได้
2. ระมัดระวังการเบรคและการเข้าโค้ง อย่างที่กล่าวในเรื่องสภาพถนนในหน้าหนาวที่มีความชื้นแฉะและผิวถนนลื่น ต้องมีความระมัดระวังเป็นพิเศษในการใช้ความเร็ว การเบรค และการผ่านทางโค้ง ให้ระวังการเบรคกะทันหัน และการเข้าโค้งโดยไม่ลดความเร็ว อาจทำให้รถเสียหลักและเกิดอุบัติเหตุ
3. พักผ่อนให้เพียงพอ ผู้ขับขี่มักมองข้ามความพร้อมของร่างกายตัวเอง การพักผ่อนให้เพียงพอ จะทำให้ร่างกายสามารถสู้กับลมหนาวได้ดีขึ้น การที่ร่างกายต้องเจอลมหนาวอยู่ตลอดเวลา ทำให้เป็นตะคริวได้ ในกรณีที่แย่กว่านั้นคือร่างกายทนกับความหนาวไม่ไหวอาจช็อคได้ ดังนั้นแนะนำให้พักผ่อนให้เพียงพอ หากมีอาการอ่อนเพลียระหว่างเดินทาง ควรพักการเดินทาง หรือหากมีอาการเจ็บป่วย ควรงดเดินทาง
4. เปิดไฟหน้าตลอดเวลาและใช้ความระมัดระวังเป็นพิเศษ ให้ระลึกอยู่เสมอว่าเส้นทางในหน้าหนาวมีหมอกและมองเห็นไม่ชัดเจน มองข้างหน้าได้ไม่ไกล ควรเปิดไฟหน้าตลอดเวลาขณะขับขี่ และตรวจสอบไฟสัญญาณทุกดวงให้ส่องสว่างได้ปกติ เพื่อให้เพื่อนร่วมทางมองเห็นเราได้ชัดเจนเสมอในสภาพการขับขี่ที่ทัศนวิสัยไม่ดีเช่นนี้